หลักเกณฑ์ทั่วไปเกี่ยวกับ Structured Data
Structured Data ต้องไม่ละเมิดนโยบายเนื้อหาสําหรับ Google Search (ซึ่งรวมถึงนโยบายสแปม) เพื่อให้มีสิทธิ์แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียใน Google Search นอกจากนี้ หน้านี้ยังมีหลักเกณฑ์ทั่วไปที่ใช้บังคับกับ Structured Data ทั้งหมดด้วย โดยคุณต้องทําตามหลักเกณฑ์เพื่อให้มีสิทธิ์ปรากฏเป็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียใน Google Search
หากหน้าเว็บมีปัญหาเกี่ยวกับ Structured Data อาจส่งผลให้มีการดําเนินการโดยเจ้าหน้าที่ การดําเนินการโดยเจ้าหน้าที่กับ Structured Data หมายความว่าหน้าเว็บจะเสียสิทธิ์ปรากฏเป็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย แต่จะไม่ส่งผลต่อการจัดอันดับหน้าเว็บใน Google Web Search หากต้องการ��รวจสอบว่าหน้าเว็บมีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่หรือไม่ ให้เปิดรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ใน Search Console
หลักเกณฑ์ทางเทคนิค
คุณทดสอบได้ว่าเนื้อหาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางเทคนิคหรือไม่โดยใช้การทดสอบผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียและเครื่องมือตรวจสอบ URL ซึ่งจะตรวจพบข้อผิดพลาดทางเทคนิคส่วนใหญ่ได้
รูปแบบ
หากต้องการมีสิทธิ์แสดงเนื้อหาในผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย ให้มาร์กอัปหน้าของเว็บไซต์โดยใช้ 1 ในรูปแบบที่เราร���งรับ 3 รูปแบบดังนี้
- JSON-LD (แนะนำ)
- Microdata
- RDFa
การเข้าถึง
อย่าบล็อก Googlebot ไม่ให้เข้าถึงหน้า Structured Data ��ดยใช้ robots.txt, ��������� noindex
หรือวิธีการอื่นๆ ที่ใช้ควบคุมการเข้าถึง
หลักเกณฑ์ด้านคุณภาพ
เครื่องมืออัตโนมัติจะตรวจสอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพเหล่านี้ได้ยาก การละเมิดหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพอาจป้องกัน Structured Data ที่ถูกหลักไวยากรณ์ไม่ให้แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียใน Google Search หรืออาจทำให้ข้อมูลดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นสแปม
เนื้อหา
- ปฏิบัติตามนโยบายสแปมสําหรับ Google Web Search
- ใส่ข้อมูลที่อัปเดต เราจะไม่แสดงผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียสำหรับเนื้อหาที่มีเวลาเป็นปัจจัยสำคัญซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับปัจจุบันอีกต่อไป
- ใส่เนื้อหาต้นฉบับที่คุณหรือผู้ใช้ของคุณได้สร้างไว้
- อย่ามาร์กอัปเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องหรือทำให้เข้าใจผิด เช่น รีวิวปลอมหรือเนื้อหาซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นหลักของหน้า
- อย่าใช้ Structured Data เพื่อหลอกลวงหรือทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิด อย่าแอบอ้างบุคคลหรือองค์กรอื่น หรือสื่อให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ แอฟฟิลิเอต หรือวัตถุประสงค์หลัก
- เนื้อหาใน Structured Data ยังต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือนโยบายเนื้อหาเพิ่มเติมตามที่ระบุไว้ในคู่มือพิเศษด้วย ตัวอย่างเช่น เนื้อหาใน Structured Data
JobPosting
ต้องเป็นไปตามนโยบายเนื้อหาของประกาศรับสมัครงาน เนื้อหาใน Structured Data ของแบบฝึกหัดแก้ปัญหาต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์เนื้อหาของแบบฝึกหัดแก้ปัญหา
ความเกี่ยวข้อง
Structured Data ต้องเป็นตัวแทนของเนื้อห���จริงๆ ในหน้า ตัวอย่างข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องมีดังนี้
- การสตรีมการแข่งขันกีฬาแบบสดที่ติดป้ายกำกับการถ่ายทอดสดว่าเป็นกิจกรรมในท้องถิ่น
- เว็บไซต์เกี่ยวกับงานไม้ที่ติดป้ายกำกับวิธีการว่าเป็นสูตรอาหาร
ความสมบูรณ์
- ระบุพร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็นทั้งหมดซึ่งอยู่ในเอกสารประกอบสำหรับประเภทผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียที่เจาะจง รายการที่มีพร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็นไม่ครบจะไม่มีสิทธิ์แสดงในผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย
- ยิ่งคุณเพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำเยอะขึ้น ผลการค้นหาสำหรับผู้ใช้ก็จะมีคุณภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ชอบประกาศรับสมัครงานที่มีการระบุเงินเดือนอย่างชัดเจนมากกว่ารายการที่ไม่ระบุ ผู้ใช้ต้องการดูสูตรอาหารที่มีรีวิวจากผู้ใช้จริงและการให้ดาวตามความเป็นจริง (โปรดทราบว่ารีวิวหรือการให้คะแนนที่ไม่ได้มาจากผู้ใช้จริงอาจส่งผลให้มีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่) การจัดอันดับของผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียจะนำข้อมูลเพิ่มเติมมาพิจารณาด้วย
ตำแหน่ง
- วาง Structured Data ในหน้าที่พูดถึงข้อมูลดังกล่าว นอกเสียจากว่าเอกสารจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น
- หากคุณมีหน้าเว็บที่ซ้ำกันสำหรับเนื้อหาเดียวกัน เราขอแนะนำให้วาง Structured Data ที่เหมือนกันลงในหน้าที่ซ้ำกันทั้งหมด ไม่ใช่แค่ในหน้า Canonical
ลักษณะเฉพาะ
- พยายามใช้ประเภทและชื่อพร็อพเพอร์ตี้ที่เกี่ยวข้องและเจาะจงมากที่สุดตามที่กำหนดไว้โดย schema.org สำหรับมาร์กอัป
- ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เพิ่มเติมทั้งหมดที่อยู่ในเอกสารสำหรับประเภทผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียที่เจาะจง
รูปภาพ
- เมื่อระบุรูปภาพเป็นพร็อพเพอร์ตี้ Structured Data โปรดตรวจสอบว่ารูปภาพเกี่ยวข้องกับหน้าดังกล่าว เช่น หากคุณกำหนดพร็อพเพอร์ตี้
image
ของNewsArticle
รูปภาพต้องเกี่ยวข้องกับบทความข่าวนั้น - ระบบต้องสามารถทำการ Crawl และจัดทําดัชนี URL รูปภาพทั้งหมดที่ระบุใน Structured Data ได้ มิเช่นนั้นแล้ว Google Search จะค้นหาและแสดงรายการเหล่านั้นในหน้าผลการค้นหาไม่ได้ หากต้องการตรวจสอบว่า Google เข้าถึง URL ได้หรือไม่ ให้ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL
หลายรายการในหน้าเดียว
หลายรายการในหน้าเดียวหมายความว่าในหน้าหนึ่งมีเนื้อหามากกว่า 1 ประเภท เช่น หน้าหนึ่งอาจมีสูตรอาหาร วิดีโอแสดงวิธีทำตามสูตรดังกล่าว และข้อมูลเบรดครัมบ์ของวิธีค้นพบสูตรนั้น นอกจากนี้ คุณอาจมาร์กอัปข้อมูลที่ผู้ใช้มองเห็นได้ทั้งหมดนี้ด้วย Structured Data ซึ่งช่วยให้เครื่องมือค้นหาอย่างเช่น Google Search เข้าใจข้อมูลในหน้าได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณเพิ่มรายการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับหน้า Google Search จะมองเห็นภาพรวมได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นว่าหน้าดังกล่าวเกี่ยวกับอะไรและแสดงหน้านั้นในฟีเจอร์การค้นหาต่างๆ ได้
Google Search เข้าใจหลายรายการในหน้าเดียว ไม่ว่าคุณจะฝังรายการเหล่านั้นไว้หรือระบุแต่ละรายการแยกกัน
- การฝัง: เมื่อมีรายการหลัก 1 รายการ และรายการอื่นๆ รวมกลุ่มกันอยู่ภายใต้รายการหลักนั้น วิธีนี้ม��ประโยชน์เป็นพิเศษเวลาจัดกลุ่มรายการที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน (เช่น สูตรอาหารที่มีวิดีโอและรีวิว)
- รายการเดี่ยว: เมื่อแต่ละรายการเป็นบล็อกแยกกันในหน้าเดียวกัน
เราจะตัดตัวอย่างเหล่านี้เพื่อให้สั้นกระชับ และตัวอย่างเหล่านี้ไม่ได้แสดงพร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็นและแนะนำทั้งหมดสำหรับฟีเจอร์ ดูตัวอย่างที่สมบูรณ์ได้จากเอกสารประกอบเฉพาะของ Structured Data แต่ละประเภท
การฝัง
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง Structured Data ที่มีการฝัง โดยที่ Recipe
เป็นรายการหลัก ส่วน aggregateRating
และ video
ฝังอยู่ใน Recipe
<html> <head> <title>How To Make Banana Bread</title> <script type="application/ld+json"> { "@context": "https://schema.org/", "@type": "Recipe", "name": "Banana Bread Recipe", "description": "The best banana bread recipe you'll ever find! Learn how to use up all those extra bananas.", "aggregateRating": { "@type": "AggregateRating", "ratingValue": "4.7", "ratingCount": "123" }, "video": { "@type": "VideoObject", "name": "How To Make Banana Bread", "description": "This is how you make banana bread, in 5 easy steps.", "contentUrl": "https://www.example.com/video123.mp4" } } </script> </head> <body> </body> </html>
รายการเดี่ยว
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง��ายการเดี่ยวของ Structured Data โดยมีรายการที่แยกกัน 2 รายการ ได้แก่ Recipe
และ BreadcrumbList
<html> <head> <title>How To Make Banana Bread</title> <script type="application/ld+json"> [{ "@context": "https://schema.org/", "@type": "Recipe", "name": "Banana Bread Recipe", "description": "The best banana bread recipe you'll ever find! Learn how to use up all those extra bananas." }, { "@context": "https://schema.org", "@type": "BreadcrumbList", "itemListElement": [{ "@type": "ListItem", "position": 1, "name": "Recipes", "item": "https://example.com/recipes" },{ "@type": "ListItem", "position": 2, "name": "Bread recipes", "item": "https://example.com/recipes/bread-recipes" },{ "@type": "ListItem", "position": 3, "name": "How To Make Banana Bread" }] }] </script> </head> <body> </body> </html>
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- เพื่อให้ Google Search เข้าใจวัตถุประสงค์หลักของหน้าเว็บ ให้ระบุประเภท Structured Data หลักที่ตรงกับวัตถุประสงค์หลักของหน้า เช่น หากหน้าเว็บเกี่ยวกับสูตรอาหารเป็นหลัก อย่าลืมใส่ Structured Data Recipe เพิ่มเติมจาก Structured Data Video และ Review ซึ่งเป็นโอกาสให้หน้ามีสิทธิ์ที่จะปรากฏในการค้นหาแบบหลายลักษณะ (ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียของสูตรอาหาร การค้นหาวิดีโอ และตัวอย่างรีวิว) หากหน้ามีเฉพาะ Structured Data ของวิดีโอก็จะทำให้ Google Search ทราบข้อมูลหน้าเว็บไม่เพียงพอที่จะแสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียของสูตรอาหารด้วย
- โปรดตรวจดูว่ารายการ Structured Data ทั้งหมดนั้นครบถ้วนเพื่อให้หน้าเว็บแสดงเนื้อหาที่ผู้ใช้มองเห็นได้อย่างสมบูรณ์ เช่น หากคุณใส่รีวิวหลายรายการ ให้ตรวจดูว่าได้ใส่รีวิวทั้งหมดที่ผู้ใช้มองเห็นได้ในหน้านั้น หากหน้าเว็บไม่ได้มาร์กอัปรีวิวทั้งหมดในหน้า อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและคาดหวังว่าจะได้เห็นรีวิวเหล่านั้นทั้งหมดโดยอิงตามลักษณะของหน้าเว็บที่ปรากฏในผลการค้นหา Search