บทความนี้อธิบายวิธีการทํางานของ Smart Bidding สําหรับยอดขายในร้าน (แคมเปญ Search และ Shopping) หากสนใจใช้ Smart Bidding สำหรับยอดขายในร้านกับแคมเปญ Performance Max โปรดอ่านสร้างแคมเปญ Performance Max
โปรดทราบ
เกี่ยวกับ Conversion ยอดขายในร้าน
หากยอดขายในหน้าร้านจริงมีความสําคัญต่อธุรกิจ คุณสามารถใช้เครื่องมือวัด Conversion เพื่อให้ทราบว่าโฆษณามีผลต่อยอดขายในร้านมากน้อยเพียงใด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีดู Conversion ยอดขายในร้าน
วิธีประเมินมูลค่ายอดขายในร้าน
หากคุณได้รับมูลค่ายอดขายในร้านแบบไดนามิกผ่านการอัปโหลดธุรกรรมในร้านหรือจาก��ารรายงานมูลค่าแบบไดนามิกอัตโนมัติ UI ของ Google Ads จะแสดงมูลค่า Conversion ยอดขายในร้านโดยประมาณ แต่หากไม่ได้อัปโหลดหรือมีสิทธิ์ได้รับเฉพาะจำนวน Conversion อัตโนมัติ คุณจะระบุมูลค่า Conversion เฉลี่ยของ Conversion ยอดขายในร้านได้ และระบบจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อระบุมูลค่า Conversion ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าบัญชี Google Ads สําหรับยอดขายในร้านค้า
ไม่ว่าคุณจะได้รับมูลค่ายอดขายในร้านโดยอัตโนมัติหรือผ่านธุรกรรมในร้านก็ตาม เราขอแนะนําให้ระบุมูลค่า Conversion ยอดขายในร้านแบบคงที่ที่สอดคล้องกับมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยของยอดขายในร้าน การกำหนดมูลค่าคงที่นี้มีประโยชน์ในกรณีที่ระบบต้องกลับไปใช้มูลค่าคงที่แทนมูลค่าแบบไดนามิก มูลค่า Conversion ยอดขายในร้านแบบคงที่คือ 1 โดยค่าเริ่มต้น
เช่น หากคุณอัปโหลดข้อมูลธุรกรรมในร้าน แต่หยุดอัปโหลดเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระบบจะใช้มูลค่าคงที่จนกว่าการอัปโหลดที่มีสิทธิ์จะกลับมาทํางานอีกครั้ง
หมายเหตุ
- คุณใช้กฎมูลค่า Conversion เพื่อควบคุมมูลค่ายอดขายในร้านอย่างยืดหยุ่นมากขึ้นได้ เช่น กําหนดมูลค่ายอดขายในร้านแบบคงที่ที่แตกต่างกันตามแคมเปญ โดยขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่แคมเปญโปรโมต หรือปรับมูลค่ายอดขายในร้านแบบไดนามิกตามเปอร์เซ็นต์เพื่อสร้างความสมดุลระหว่าง Conversion ออนไลน์และออฟไลน์ให้กับเป้าหมายธุรกิจ เช่น คุณอาจเพิ่มกฎมูลค่าเพื่อคูณด้วย 0.8 เมื่อต้องการลดมูลค่ายอดขายในร้านลง 20% เมื่อใช้โอเปอเรเตอร์การคูณ โปรดทราบว่าค่าสามารถอยู่ระหว่าง 0.5 ถึง 10 ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎมูลค่า Conversion
- ยอดขายในร้านและการเข้าชมร้านค้าใช้การตั้งค่า Conversion เดียวกัน (เช่น กรอบเวลา Conversion, รูปแบบการระบุแหล่งที่มา และอื่นๆ) การปรับกรอบเวลา Conversion สําหรับยอดขายในร้านจะปรับกรอบเวลาดังกล่าวของการเข้าชมร้านค้าโดยอัตโนมัติด้วย
ตั้งค่า Smart Bidding สำหรับยอดขายในร้านในแคมเปญ
กลยุทธ์การเสนอราคาที่รองรับ
สำหรับแคมเปญ Search กลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติเต็มรูปแบบรองรับ Smart Bidding เพื่อ Conversion ยอดขายในร้าน เช่น ROAS เป้าหมาย, CPA เป้าหมาย, เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด และเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกําหนดกลยุทธ์การเสนอราคาตามเป้าหมาย
หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อ Conversion ยอดขายในร้านให้มากยิ่งขึ้นในแคมเปญ Search ให้ใช้กลยุทธ์การเสนอราคาตามมูลค่าและตรวจสอบว่า Conversion ยอดขายในร้านมีมูลค่าสูงกว่าการกระทำที่ถือเป็น Conversion อื่นๆ กลยุทธ์การเสนอราคาที่เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อปริมาณ Conversion (เช่น CPA เป้าหมายหรือเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด) จะพิจารณาการกระทำที่ถือเป็น Conversion แต่ละรายการว่ามีความสำคัญเท่ากัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลค่า Conversion
สําหรับแคมเปญ Shopping การเสนอราคา ROAS เป้าหมายรองรับ Smart Bidding เพื่อ Conversion ยอดขายในร้าน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการเสนอราคาขณะสร้างแคมเปญในพื้นที่
สําหรับ��คมเปญ Performance Max กลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เช่น ROAS เป้าหมาย, CPA เป้าหมาย, เพิ่มจํานวน Conversion สูงสุด และเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุดรองรับ Smart Bidding เพื่อ Conversion ยอดขายในร้าน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการเสนอราคาขณะสร้างแคมเปญ Performance Max
รวมใน "Conversion"
1. กําหนดเป้าหมาย Conversion ยอดขายในร้านเป็นเป้าหมายเริ่มต้นของบัญชี (แนะนํา)
เมื่อกําหนดเป้าหมาย Conversion ยอดขายในร้านเป็นเป้าหมายเริ่มต้นของบัญชี กลยุทธ์ Smart Bidding ที่เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อ Conversion ในบัญชีนั้นจะเริ่มเพิ่มประสิทธิภาพตามเป้าหมาย หาก Conversion นั้นเป็นของระดับบัญชีดูแลจัดการ การตั้งค่านั้นจะมีผลกับทุกแคมเปญที่ใช้ Smart Bidding ในบัญชีลูกค้าที่เลือกใช้การติดตาม Conversion ภายใต้บัญชีดูแลจัดการนั้น เราขอแนะนําให้กําหนดเป้าหมาย Conversion ยอดขายในร้านเป็นค่าเริ่มต้นของบัญชีทุกครั้งที่ทําได้ เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อ Conversion ชุดเดียวกันในทุกแคมเปญจะทำให้มีประสิทธิภาพโดยรวมดีที่สุด โปรดทราบว่าเราแนะนำให้รวมยอดขายในร้านไว้ในกลยุทธ์การเสนอราคาที่อิงตาม Conversion ทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด
วิธีกําหนดเป้าหมาย Conversion ยอดขายในร้านเป็นค่าเริ่มต้นของบัญชี
- คลิกไอคอนเป้าหมาย ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
- คลิกสรุป
- ระบุการกระทําที่ถือเป็น Conversion "ยอดขายในร้าน"
- คลิกแก้ไขเป้าหมาย
- เลือกใช้เป็นเป้าหมายของบัญชี
- เลือกการกระทําที่ถือเป็น Conversion ที่ต้องการใช้สําหรับการรายงานและการเสนอราคาเป็น "หลัก"
- คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง
- เลือกแก้ไขการตั้งค่า
- เลือกช่องข้าง "รวมใน 'Conversion'" และคลิกบันทึก
โปรดทราบ
- อย่าลืมอัปเดตเป้าหมาย ROAS หรือ CPA ของแคมเปญ Search และ Shopping ที่มีอยู่ทั้งหมดซึ่งใช้ Smart Bidding ที่อิงตาม Conversion เมื่อกำหนดเป้าหมาย Conversion ยอดขายในร้านที่ระดับบัญชีลูกค้าหรือบัญชีดูแลจัดการ เพื่อพิจารณา Conversion หรือมูลค่า Conversion เพิ่มเติมจากยอดขายในร้านด้วย
- กลยุทธ์ Smart Bidding จะพิจารณาการกระทําที่ถือเป็น Conversion ทั้งหมดที่มีสถานะเป็น "หลัก" ตรวจสอบว่าการกระทําที่ถือเป็น Conversion ที่คุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพพร้อมกับเป้าหมายยอดขายในร้านมีสถานะเป็น "หลัก"
2. กําหนดเป้าหมาย Conversion ยอดขายในร้านที่ระดับแคมเปญ
การตั้งค่านี้ให้คุณเลือกการกระทำที่ถือเป็น Conversion ซึ่งระบบจะรายงานใน "Conversion" และใช้สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอในระดับแคมเปญ การตั้งค่า Conversion ระดับแคมเปญช่วยให้คุณลบล้างเป้าหมายเริ่มต้นของบัญชี รวมถึงระบุเป้าหมายที่ต้องการติดตามในการรายงาน Conversion และใช้สําหรับการเสนอราคาในแคมเปญหนึ่งๆ ได้ เราขอแนะนำให้ใช้การตั้งค่า Conversion ระดับแคมเปญเป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวหากคุณมีกลยุทธ์การเสนอราคาที่เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อ Conversion อยู่แล้ว และต้องการทดสอบและปรับขนาดการนำการเสนอราคาเพื่อยอดขายในร้านไปใช้ทั่วทั้งบัญชีเมื่อเวลาผ่านไป
วิธีตั้งค่า Conversion ระดับแคมเปญสำหรับแคมเปญ Search
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในหมวดหมู่เมนู
- คลิกแคมเปญ
- คลิกแท็บการตั้งค่าที่ด้านบนของหน้า
- ไปที่แถบพื้นที่ทํางานที่ด้านบน
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงพื้นที่ทํางาน แล้วเลือกแคมเปญ Search
- เลือกแคมเปญที่ต้องการให้เลือกใช้การเสนอราคาเพื่อยอดขายในร้าน
- คลิกการตั้งค่าเพิ่มเติม
- คลิกเป้าหมาย
- คลิกใช้การตั้งค่าเป้าหมายเฉพาะแคมเปญ
- เลือกเป้าหมาย Conversion ยอดขายในร้านเพิ่มเติมจากเป้าหมาย Conversion อื่นๆ ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ แล้วคลิกบันทึก
หมายเหตุ: คุณสามารถเลือกที่จะใช้การเข้าชมร้านค้าหรือยอดขายในร้านเป็นเป้าหมายของบัญชีหรือแคมเปญได้ แต่เลือกทั้ง 2 อย่างพร้อมกันไม่ได้ หากคุณมีการเข้าชมร้านค้าหรือยอดขายในร้านเป็นเป้าหมายเดียวเท่านั้นและต้องการสลับเปลี่ยนระหว่างเป้าหมายทั้งสอง โปรดเพิ่มเป้าหมาย Conversion ที่ไม่ใช่ของร้านค้าก่อน แล้วนำเป้าหมายการเข้าชมร้านค้าหรือยอดขายในร้านที่มีอยู่ออกก่อนที่จะเพิ่มเป้าหมายการเข้าชมร้านค้าหรือยอดขายในร้านที่ต้องการ หลังจากนั้น คุณจะนําเป้าหมายที่ไม่ใช่ของร้านค้าออก���ด้
เคล็ดลับ
วิธีเปลี่ยนแปลงมูลค่า Conversion ยอดขายในร้านระดับบัญชีแบบคงที่
- คลิกไอคอนเป้าหมาย ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
- คลิกสรุป
- คลิกการกระทําที่ถือเป็น Conversion ยอดขายในร้านที่ต้องการแก้ไข
- คลิกแก้ไขการตั้งค่า ตอนนี้คุณเปลี่ยนแปลงการกระทําที่ถือเป็น Conversion "ยอดขายในร้าน" ได้แล้ว
- คลิกส่วนมูลค่าและอัปเดตมูลค่าคงที่ในช่องนั้น เราแนะนําให้ระบุค่าที่แสดงถึงมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยของยอดขาย เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลเชิงลึกที่เหมาะสมมากขึ้นในการประเมินข้อมูลยอดขายในร้าน
- หมายเหตุ: หากคุณได้รับมูลค่ายอดขายในร้านอัตโนมัติ ระบบจะไม่ใช้มูลค่าคงที่ หากคุณอัปโหลดข้อมูลธุรกรรมในร้าน ระบบจะใช้มูลค่าคงที่ต่อเมื่อคุณหยุดอัปโหลดข้อมูลธุรกรรมในร้านที่มีสิทธิ์หลังจากระยะเวลาที่กําหนด
แนวทางปฏิบัติแนะนำ
- ผู้ลงโฆษณาควรอัปโหลดข้อมูลธุรกรรมในร้านเป็นประจํา (แนะนําให้ทําทุกวัน แต่อย่างน้อยทุกสัปดาห์) เพื่อให้ Smart Bidding ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สําหรับผู้ลงโฆษณาที่อัปโหลดข้อมูล ระบบจะคาดการณ์ข้อมูลมูลค่ายอดขายในร้านได้ถึง 30 วันนับจากการอัปโหลดครั้งล่าสุด ซึ่งหมายความว่าการไม่ได้อัปโหลด 1-2 ครั้งจ���ไม่ส่งผลเสียต่อระบบการเสนอราคา อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนําให้คุณอัปโหลดอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ Smart Bidding ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีอัปโหลดข้อมูลยอดขายในร้านค้า
- คุณหาระยะเวลาที่ลูกค้าใช้ทำ Conversion ได้โดยการเพิ่มคอลัมน์ยอดขายในร้านที่กําหนดไว้ล่วงหน้า แล้วคลิกกลุ่ม "จํานวนวันที่ใช้ทำ Conversion" เราขอแนะนำให้ใช้กรอบเวลา Conversion ยอดขายในร้าน 7 วันเพื่อให้ Smart Bidding มีประสิทธิภาพและประเมินผลได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ธุรกิจบางรูปแบบที่ต้องใช้กรอบเวลา Conversion ที่นานขึ้นเนื่องจากมีรอบการซื้อยาวนานสามารถใช้กรอบเวลา Conversion 30 วัน โปรดทราบว่าการใช้กรอบเวลา 30 วันจะทำให้การประเมินประสิทธิภาพของ Smart Bidding ที่มียอดขายในร้านอย่างถูกต้องใช้เวลานานขึ้นหลังจากที่มีการใช้งาน
- โปรดทราบว่าการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า Conversion จะไม่มีผลย้อนหลัง เมื่อคุณรวมยอดขายในร้านไว้ใน "Conversion" ครั้งแรก มูลค่าที่ผ่านมาในคอลัมน์ Conversion จะไม่สอดคล้องกับการตั้งค่าปัจจุบัน วิธีที่ดีที่สุดคือคำนวณเป้าหมาย CPA และ ROAS ด้วยตนเองโดยนำข้อมูลย้อนหลังจากช่วงระยะเวลาอย่างน้อย 30 วันก่อนที่จะเกิด Conversion มาใช้ในสูตรต่อไปนี้
- เป้าหมาย CPA = ต้นทุน / (Conversion ทั้งหมดที่เสนอราคาได้ + ยอดขายในร้าน)
- เป้าหมาย ROAS = (มูลค่า Conversion ของ Conversion ทั้งหมดที่เสนอราคาได้ + ยอดขายในร้าน * มูลค่า Conversion ปัจจุบันต่อยอดขายในร้าน) * 100 / ต้นทุน
- สำหรับเป้าหมาย ROAS ในแคมเปญ Performance Max ให้ทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำข้างต้นสำหรับเป้าหมาย ROAS ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้
- คุณไม่ได้ใช้เป้าหมาย ROAS ที่ไม่บังคับ: ไม่ต้องดำเนินการใดๆ
- คุณใช้เป้าหมาย ROAS เป็นกลไกความปลอดภัยเท่านั้น (ตั้งเป้าหมาย ROAS ไว้สูงกว่า ROAS ที่ได้): พิจารณาตั้งเป้าหมาย ROAS ใหม่ให้สูงกว่าจำนวนที่แนะนำข้างต้นด้วย
ผลกระทบต่อต้นทุนจากการเพิ่ม Conversion หรือมูลค่า Conversion ในกลยุทธ์ Smart Bidding ตามเป้าหมาย
การเพิ่มยอดขายในร้านไว้ใน Conversion ที่ใช้เพื่อการเสนอราคาอาจทำให้กลยุทธ์ CPA เป้าหมายและ ROAS เป้าหมายใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ไปเรื่อยๆ หากต้องการรักษาค่าใช้จ่ายให้คงที่ ให้ทำตามคำแนะนำข้างต้นเพื่อระบุและอัปเดตเป้าหมาย หากต้องการให้มั่นใจยิ่งขึ้นว่าการใช้จ่ายจะคงที่ คุณลดเป้าหมาย CPA หรือเพิ่มเป้าหมาย ROAS เมื่อรวมยอดขายในร้านไว้ใน "Conversion" แล้วได้